สารบัญ:
|
ปกหน้า สารบัญ บทที่ ๑ บทนำ -๑.๑ ความสำคัญของปัญหา -๑.๒ วัตถุประสงค์ของการวิจัย -๑.๓ ขอบเขตของการวิจัย -๑.๔ วิธีดำเนินการวิจัย -๑.๕ ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ บทที่ ๒ แนวความคิดและทฤษฎี -๒.๑ การกำหนดจำนวนคะแนนเสียงขั้นต่ำของการคำนวณเพื่อหาสัดส่วนจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อไว้ร้อยละ ๕ ของจำนวนคะแนนเสียงรวมทั้งประเทศ ตามมาตรา ๑๐๐ --๒.๑.๑ เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ --๒.๑.๒ การเลือกตั้งของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี -๒.๒ การกำหนดให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา ต้องจบการศึกษาระดับปริญญาตรี ตามมาตรา ๑๐๗ (๓) มาตรา ๑๒๕ (๓) -๒.๓ การกำหนดให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องสังกัดพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า ๙๐ วัน นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง ตามมาตรา ๑๐๗ (๔) --๒.๓.๑ เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ -๒.๔ การขาดคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ กรณีไปอุปสมบทเป็นพระภิกษุภายหลังวันสมรัครับเลือกตั้ง ตามมาตรา ๑๐๙ (๓) --๒.๔.๑ เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ --๒.๔.๒ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ --๒.๔.๓ ย่อคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด -๒.๕ การกำหนดให้ใช้เขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ตามมาตรา ๑๒๒ --๒.๕.๑ เจตนารมรณ์ของรัฐธรรมนูญ -๒.๖ การแนะนำตัวของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา ตามมาตรา ๑๒๙ --๒.๖.๑ เจตนารมรณ์ของรัฐธรรมนูญ -๒.๗ การขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีตามมาตรา ๑๘๕ --๒.๗.๑ เจตนารมรณ์ของรัฐธรรมนูญ --๒.๗.๒ การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีของต่างประเทศ -๒.๘ การห้ามรัฐมนตรีเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาในขณะเดียวกัน ตามมาตรา ๒๐๔ --๒.๘.๑ เจตนารมรณ์ของรัฐธรรมนูญ -๒.๙ การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา ๓๑๓ --๒.๙.๑ เจตนารมรณ์ของรัฐธรรมนูญ --๒.๙.๒ การแก้ไขรัฐธรรมนูญของต่างประเทศ บทที่ ๓ ความคิดเห็นของนักวิชาการและบุคคลที่เกี่ยวข้อง -๓.๑ การกำหนดจำนวนคะแนนเสียงขั้นต่ำของการคำนวณเพื่อหาสัดส่วนจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อไว้ร้อยละ ๕ ของจำนวนคะแนนเสียงรวมทั้งประเทศ ตามมาตรา ๑๐๐ -๓.๒ การกำหนดให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาต้องจบการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไปตามมาตรา ๑๐๗(๓) มาตรา (๓) -๓.๓ การกำหนดคุณสมบัติให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องสังกัดพรรคการเมืองเป็นเวลาไม่น้อยกว่า ๙๐ วัน นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้งตามมาตรา ๑๐๗ (๔) -๓.๔ การขาดคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ กรณีไปอุปสมบทเป็นพระภิกษุภายหลังวันสมัครรับเลือกตั้ง ตามมาตรา ๑๐๙ (๓) -๓.๕ การกำหนดให้ไช้เขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (มาตรา ๑๒๒) -๓.๖ การแนะนำตัวของผู้สม้ครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาตามมาตรา ๑๒๙ -๓.๗ การเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา ๑๒๕ -๓.๘ การห้ามรัฐมนตรีเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาในขณะเดียวกัน ตามมาตรา ๒๐๔ -๓.๙ การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา ๓๑๓ บทที่ ๔ บทวิเคราะห์ -๔.๑ การกำหนดจำนวนคะแนนเสียงขั้นต่ำของการคำนวณเพื่อหาสัดส่วนจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อไว้ร้อยละ ๕ ของจำนวนคะแนนเสียงรวมทั้่งประเทศ ตามมาตรา ๑๐๐ --๔.๑.๑ ผลดีของการกำหนดจำนวนคะแนนเสียงขั้นต่ำร้อยล ๕ --๔.๑.๒ ผลเสียของการกำหนดจำนวนคะแนนเสียงขั้นต่ำร้อยละ ๕ -๔.๒ การกำหนดคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิวุฒิสภาต้องจบการศึกษาระดับปริญญาตรี ตามมาตรา ๑๐๗ (๓) --๔.๒.๑ ผลดีของการกำหนดคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาต้องจบการศึกษาระดับปริญญาตรี --๔.๒.๒ ผลเสียของการกำหนดคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาต้องจบการศึกษาระดับปริญญาตรี -๔.๓ การกำหนดคุณสมบัติให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องสังกัดพรรคการเมืองเป็นเวลาไม่น้อยกว่า ๙๐ วัน นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง ตามมาตรา ๑๐๗ (๔) --๔.๓.๑ ผลดีของการกำหนดระยะเวลาให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องสังกัดพรรคการเมือง ๙๐ วัน --๔.๓.๒ ผลเสียของการกำหนดระยะเวลาให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องสังกัดพรรคการเมือง ๙๐ วัน -๔.๔ การขาดคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ กรณีไปอุปสมบทเป็นพระภิกษุภายหลังวันสมัครรับเลือกตั้ง ตามมตรา ๑๐๙ (๓) -๔.๕ การกำหนดให้ใช้เขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ตามมาตรา ๑๒๒ --๔.๕.๑ ผลดีของการกำหนดให้ใช้เขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา --๔.๕.๒ ผลเสียของการกำหนดให้ใช้เขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา -๔.๖ การแนะนำตัวของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา ตามมาตรา ๑๒๙ --๔.๖.๑ ผลดีของการให้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาแนะนำตัว --๔.๖.๒ ผลเสียของการให้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาแนะนำตัว -๔.๗ การขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา ๑๘๕ --๔.๗.๑ ผลดีของการเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา ๑๘๕ --๔.๗.๒ ผลเสียของการเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา ๑๘๕ -๔.๘ การห้ามรัฐมนตรีเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาในขณะเดียวกัน ตามมาตรา ๒๐๔ --๔.๘.๑ ผลดีของการห้ามรัฐมนตรีเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาในขณะเดียวกัน --๔.๘.๒ ผลเสียของการห้ามรัฐมนตรีเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาในขณะเดียวกัน -๔.๙ การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา ๓๑๓ --๔.๙.๑ ผลดีของการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา ๓๑๓ --๔.๙.๒ ผลเสียของการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา ๓๑๓ บทที่ ๕ บทสรุปและข้อเสนอแนะ -๕.๑ การกำหนดจำนวนคะแนนเสียงขั้นต่ำของการคำนวณเพื่อหาสัดส่วนจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อไว้ร้อยละ ๕ ของจำนวนคะแนนเสียงรวมทั้งประเทศ ตามมาตรา ๑๐๐ -๕.๒ การกำหนดคุณสมบัติให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสภาชิกวุฒิสภาต้องจบการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป ตามมาตรา ๑๐๗ (๓) มาตรา ๑๒๕ (๓) -๕.๓ การกำหนดคุณสมบัติให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องสังกัดพรรคการเมืองเป็นเวลาไม่น้อยกว่า ๙๐ วัน นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง ตามมาตรา ๑๐๗ (๔) -๕.๔ การขาดคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อกรณีไปอุปสมบทเป็นพระภิกษุภายหลังวันสมัครรับเลือกตั้ง ตามมาตรา ๑๐๙ (๓) -๕.๕ การกำหนดให้ดใช้เขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ตามมตรา ๑๒๒ -๕.๖ การแนะนำตัวของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา ตามมาตรา ๑๒๙ -๕.๗ การขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา ๑๘๕ ปกหลัง
|